หุ้นแมนยู (Manchester United) เคยประสบช่วงที่มูลค่าลดลงถึง 22 เปอร์เซนต์ หลังจากภายหลัง “ปีศาจแดง” สโมสรฟุตบอล Manchester United ก่อนหน้านี้ มีข่าวว่าหุ้นนี้จะยังคงเป็นของตระกูล เกลเซอร์ ต่อไป แม้ว่าหลังจากนั้นราคาของหุ้นจะพยุงตัวขึ้นบ้าง อย่างไรก็ตาม สถานะปัจจุบันยังไม่เพียงพอในการชดเชยผลกระทบที่เกิดขึ้นได้.
ในตลาดหุ้นนิวยอร์ก, หุ้นของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้เจอช่วงที่ทำให้ราคาลดลงถึงร้อยละ 22 เมื่อวันจันทร์ที่ 16 ตุลาคม ที่ผ่านมา.
อนึ่ง, สามารถเห็นได้ว่ามีความเคลื่อนไหวสำคัญเกี่ยวกับอนาคตของ แมนฯ ยูไนเต็ด ในไม่กี่วันล่าสุด. ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นรวมถึงการตัดสินใจของชีคห์ ยาสซิม บิน ฮาหมัด ที่เลือกที่จะไม่เทคโอเวอร์ “ปีศาจแดง” และเซอร์ จิม แรตคลิฟฟ์, คู่แข่งหลักของนักธุรกิจจากกาตาร์ที่กำลังจะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในบอร์ดบริหารของทีม. เมื่อเขาได้เปลี่ยนแผนและต้องการที่จะเข้ามาถือหุ้นก่อนร้อยละ 25 เป็อร์เซ็นต์, นี่เป็นส่วนหนึ่งของการเตรียมพร้อมสู่การเทคโอเวอร์ทีมจากตระกูลเกลเซอร์ในอนาคต.
ในช่วงที่ราคาหุ้นของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ลดลงถึงร้อยละ 22, มูลค่าในตลาดของทีมก็ลดลงทันทีถึงราว 600 ล้านปอนด์ (ประมาณ 26,400 ล้านบาท) โดยทันที แม้ว่าราคาหุ้นจะฟื้นตัวขึ้นในภายหลัง แต่ความเสียหายนั้นยังคงใหญ่มากถึงขั้นที่ราคาหุ้นลดลงรวมๆ 170 ล้านปอนด์ (ประมาณ 7,480 ล้านบาท) ที่เสียไปทั้งหมด.
รุสส์ มูลด์, ผู้อำนวยการด้านการลงทุนของ เอเจ เบลล์, บริษัทที่ให้บริการแพลตฟอร์มการลงทุนออนไลน์และบริการนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์, ได้กล่าวว่าสถานการณ์ในครั้งนี้เกิดขึ้นเนื่องจากเจ้าของทีม แมนฯ ยูไนเต็ด ยังคงเป็นตระกูลเกลเซอร์อย่าง โจเอล เกลเซอร์ และ ต่อไป อาฟราม เกลเซอร์ เขายังเพิ่งความคิดว่าราคาหุ้นของ man u วันนี้ ที่ลดลงอย่างมากเป็นการสะท้อนถึงความผิดหวังที่ดูเหมือนการขายทีมไม่น่าจะเกิดขึ้นได้.
ติดตาม ข่าวแมนยู เพิ่มเติมกับเราได้ทุกวันที่นี้ อ่านข่าวอื่นๆ คลิ๊ก >> ปีเตอร์ ชไมเคิ่ล